วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

ความเป็นมาของงานแสดงช้างสุรินทร์

บริเวณตอนเหนือของจังหวัดสุรินทร์ในแถบตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม และตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี เป็นถิ่นที่อยู่ของชนพื้นเมืองชาว กวยหรือ ส่วยนิยมเลี้ยวช้างมาแต่โบราณกาล เพื่อนำไปใช้ในงานและพิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดสุรินทร์ประมาณ ๕๘ กิโลเมตร ชาวบ้านนิยมเลี้ยงช้างไว้เป็นจำนวนมาก จนมีผู้รู้จักบ้านตากลางในนามของหมู่บ้านช้าง หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับลำน้ำมูลและลำน้ำชี เดิมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่า มีความอุดมสมบูรณ์มาก

 
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ นายวินัย สุวรรณกาศ นายอำเภอท่าตูม ได้จัดงานแสดงช้างขึ้นที่บริเวณสนามบินเก่า อำเภอท่าตูม (ที่ตั้งโรงเรียนท่าตูมประชาเสริมวิทย์ในปัจจุบัน) เพื่อเฉลิมฉลองที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ ในงานมีการแสดงขบวนแห่ช้าง การแข่งขันช้างวิ่งเร็ว การคล้องช้าง ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก มีการแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ทำให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศเกิดความสนใจเป็นอย่างมาก ในปีต่อมา อสท.(ททท.) จึงได้เข้ามาให้การสนับสนุน โดยร่วมกำหนดรูปแบบของการแสดง และนำนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาชมการแสดง

 
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้การจัดงานช้างเป็นงานประจำปีของชาติ และให้ส่วนราชการต่าง ๆ สนับสนุน นายคำรณ สังขกร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในสมัยนั้น พิจารณาเห็นว่า การจัดงานที่อำเภอท่าตูมไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจึงได้ย้ายสถานที่จัดงานมาจัดงานที่สนามกีฬาจังหวัดตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ ๔๘
 
  รูปแบบการแสดงในงาน
 

ถ้าหากท่านสนใจที่จะชมโขลงช้างบ้านนับร้อยเชือก...ต้องการดูวิธีการเซ่นผีปะกำซึ่งเป็น
กรรมวิธีเก่าแก่ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษชาวกูยนานนับศตวรรษ...ต้องการชมประเพณีและ
วิถีความเป็นอยู่ของชาวกูย ท่านไม่ผิดหวังแน่นอนหากได้แวะมาเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ใน
ช่วงเทศกาล งานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์
 
 
เทศกาลงานช้างของจังหวัดสุรินทร์ในปัจจุบัน ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ทันสมัยขึ้น เพื่อ
สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่หลั่งมาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังคงผูกเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ โดยในการแสดงนั้นได้จัดแสดงถึงความ
สัมพันธ์ของคนกับช้างไว้เป็นฉากๆ ดังนี้











     

     



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น